[CR] เที่ยวพม่าหน้าฝน แบบฉบับเรา3-4 คน

ถ้าพูดถึงการไหว้พระขอพร พม่าก็น่าจะเป็นอีกที่หนึ่งที่มีชื่อเสียงมากและควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต ก็เลยลองชวนเพื่อนที่คิดว่าน่าจะว่างไปกับเราได้ และเพื่อนก็ช่างแสนดีแค่ไลน์ไปชวนปุ๊ป นางก็ตอบตกลงปั๊ป หลังจากเพื่อนตอบตกลง ก็เริ่มหาตั๋วกันทันที ได้ตั๋ว Thailion Air ค่าตั๋วราคา 2800 บาท ราคาถือว่าไม่แพงไม่ถูกสำหรับการจองตั๋วล่วงหน้าไม่ถึงเดือน (สารภาพก่อนว่าดองกระทู้นี้ไว้นานมากจริงๆ อิอิ)
ทริปนี้เราจะไปเยือนพม่า 3 วัน 2 คืน  ตอนแรกคิดไว้ว่าจะไปเที่ยวกันเองแบบเรา 3 4 คน ไปสี่ยงดวงเอาข้างหน้า แต่ก่อนที่เราจะไปประมาณ 1 อาทิตย์ รู้มาว่าที่พม่าฝนตกหนักมากจนน้ำท่วม เราเลยต้องเปลี่ยนแพลนและเลือกที่จะจ้าง Local  Guide เราใช้บริการของ Nandatraveller ช่องทางการติดต่อตามนี้เลย
https://www.facebook.com/nandatraveller/
เค้าจะจัดแพลนมาให้เราเลือกเลยว่าแบบนี้โอเคไหม ถ้าเราไม่ชอบก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบเลย หลังจากที่ตกลงแพลนกันเรียบร้อย ค่าเสียหายอยู่ที่ 200 USD ต่อ4คน 3วัน รวมค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ พูดง่ายๆว่ารวมทุกอย่างแล้ว เฉลี่ยแล้วตกคนล่ะ 50 USD หรือแระมาณ 1700 บาทไทย ซึ่งเราว่าราคาไม่แพงเลย
(ใครทีมาเที่ยวพม่า 3 วัน 2 คืน สามารถไปนอนที่พระธาตุอินเขวนได้เลย แต่เนื่องจากเราจองที่พักที่ย่างกุ้งไว้ 2 คืนแล้ว เราจึงเลือกไปแค่หงสาวดี สิเรียม และย่างกุ้ง) และแล้ววันเดินทางก็มาถึง ออกจากสนามบินเวลาประมาณ 6 โมงเช้า ชั่วโมงๆกว่างๆ เราก็มาถึงย่างกุ้งแล้ว พอผ่าตม. เดินออกมาข้างนอกก็มองหาไกด์ ตอนแรกหาไม่เจอ ก็มีไกด์คนอื่นๆมาถามว่าไปไหน เช่ารถไหม เราก็ปฎิเสธเค้าไปบอกว่าเรามีไกด์แล้วแต่หาไม่เจอ เค้าก็บอกเดี๋ยวเค้าช่วยโทรมีเบอร์ไหม บลาๆ คือช่วยเราดีมาก เราบอกเราขอแค่ wifi เค้าก็พาเราไปที่เค้าเตอร์ wifi  เรื่องนี้ต้องขอเล่านิดหนึ่งเพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้เราและเพื่อนประทับใจในการช่วยเหลือของเค้ามาก ถึงแม้เราจะไม่เลือกใช้บริการเค้าแต่เค้าก็ช่วยเราเต็มที่ แต่ยังไม่ทันจะเข้าพาสเวิดไวไฟไกด์เราก็มาถึงพอดี  
หลังจากที่แนะนำตัวกันเสร็จเรียบร้อย เราก็จัดการไปซื้อซิมและแลกเงิน ตอนที่เอาเงินดอลลาห์ไปแลกเค้าทั้งดูทั้งส่องและเช็คอย่างละเอียดว่าเป็นแบงค์ปลอมไหม มีรอยขีดเขียนไหม เพราะที่นี่เค้าจะรับแต่แบงค์ใหม่เท่านั้น ตอนแลกเงินที่ไทยก็สามารถบอกได้ว่าจะนำเงินไปแลกที่พม่า เค้าจะได้เอาแบงค์ใหม่ๆให้เราค่ะ
เค้าเตอร์เรียงติดกันแบบนี้เลยจ้า ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปมาหลายที่
ส่วนซิมเพื่อเล่นเน็ตไกด์แนะนำของ Telenor ซึ่งทั้งสองเค้าเตอร์ก็อยู่ใกล้กันเลย ราคาในการเล่นเน็ตก็ตามนี้เลย เราเลือกแพ็คเก็จ 11000 เพราะอยู่ตั้ง 3 วัน เหลือยังไงก็ดีกว่าขาดเนอะ หลังจากเลือกแพ็คเก็จแล้วก็แค่ยื่นโทรศัพท์ให้เค้า เค้าก็จัดการเปลี่ยนซิมให้หมดทุกอย่าง
เอาล่ะ เงินพร้อม ซิมพร้อม ได้เวลาทัวร์พม่าจริงจังกันแล้ว ทริปนี้ดูรวยมาก
นี่คือรถที่จะพาพวกเราไปตะลอนพม่าในทริปนี้  ดีงามพระรามแปดมาก
ออกเดินทางจากสนามบินประมาณชั่วโมงนิดๆก็มาถึง พระโค หรือ หงสาวดีกันแล้ว
** ตอนนั่งรถแรกๆก็มีเมารถนิดหน่อยเพราะยังไม่ชิน รถที่นี่บีบแตรกันตลอดเวลาแฃะขับรถค่อนข้างเร็วอยู่เหมือนกัน บางทีจักยานปั่นปาดหน้ารถยนต์ก็มี คนเดินข้ามถนนตอนรถวิ่งมาเร็วๆก็มี ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและระทึกใจตลอดเวลา 555 แต่พอนั่งไปสักพักก็เริ่มชินแต่ควรพกยาดมมาด้วยก็ดีนะ

ระหว่างทางไปร้านอาหาร ขับรถผ่านช่วงตลาดเลยขอแวะลงไปดูสักหน่อย ร้านที่นี่เหมือนร้านขายของชำบ้านเราเลย มีทุกอย่างเหมือนกันเป๊ะ

และแล้วก็มาถึงร้านอาหารกันสักที ร้านแรกของเราที่พม่าชื่อว่า Hanthawadee

เป็นร้านอาหาร 2 ชั้น บรรยากาศดูร่มรื่น

พนักงานพาพวกเราขึ้นมาข้างบน ที่นั่งเยอะพอสมควร

และนี่คือหน้าตาอาหารที่เราสั่งมากินกัน มื้อแรกกินแบบเบี้ยน้อยหอยน้อย กินเบาๆ
ตอนแรกก็แอบหวั่นใจว่าจะกินอาหารได้ไหม สรุปร้านนี้มีทั้งอาหารพม่า ไทย และจีนเลย อาหารที่เราสั่งกันมาก็มีปอเปี๊ย ต้มกะทิ แล้วก็ไก่ผัดอะไรสักอย่างรสออกเปรี้ยวๆหวานๆแต่ใส่ดอกกะหล่ำไปด้วย รสชาติอร่อยดี ถ้าเราสั่งอาหารที่เป็นน้ำๆเค้าจะตักแบ่งใส่ถ้วยเล็กมาและยกมาเสริ์ฟให้แต่ละคน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าสามารถขอเพิ่มได้ไหม เพราะไม่กล้าถาม 555

ท้องอิ่มแล้วก็ลุยค่ะ สถานที่แรกที่เราจะมาไหว้พระขอพรกันก็คือ เจดีย์ชเวมอดอร์ (Shwe Maw Daw Pagoda)  เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่อยู่คู่กับหงสาวดีมายาวนานมาก เค้าบอกว่าเจดีย์นี้ตั้งอยู่ตรงกลางหงสาวดีย์เลย

พอรถไปไปจอดก็จะมีเด็กๆถือดอกไม้มายืนรอกันเยอะมาก เราสามารถซื้อดอกไม้จากตรงนี้ได้เลย



พอเดินเข้าไปข้างในก็จะต้องซื้อตั๋วกันก่อน นันดาพาเดินไปที่เค้าเตอร์ขายตั๋วและจัดการให้เรียบร้อย ทางเรามีหน้าที่จ่ายเงินเท่านั้น การมีไกด์มันดีแบบนี้นี่เอง 555

ค่าตั๋วคนละ 10000 จ๊าด  สามารถเข้าชมได้ทั้งหมด 4 ที่ เค้าจะให้ตั๋วพร้อมกับแผนที่มาด้วย  

จากที่ขายตั๋วจะมีบันไดให้เดินขึ้นไปข้างบน เราก็นำดอกไม้ที่ซื้อมาไปไหว้พระกันก่อนเลย

หลังจากไหว้พระเสร็จ เราก็ไปเดินรอบๆเจดีย์กัน เจดีย์ที่นี่ใหญ่มาก มากจริงๆ

แต่ละมุมก็จะมีพระพุทธรูปให้เราเข้าไปกราบไว้กัน

เดินเล่นกันยังไม่ถึงครึ่งรอบ ฝนก็ตกลงมาซะงั้น เลยอดไหว้พระธาตุกันเลย


สถานที่ที่สองที่นันดาพาไปคือ พระราชวังบุเรงนอง พอมาถึงก็แค่ยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็จะติ๊กว่าเราได้มาแล้ว ดูข้างนอกว่าสวยแล้ว ข้างในสวยกว่าหลายเท่า พอเราเดินเข้าไปข้างในก็จะเห็นว่ามีเสาไม้วางอยู่ข้างๆ  ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเสาร์ดั้งเดิมของพระราชวังนี้ และมีป้ายติดบรรยายสั้นๆเกี่ยวกับประวัติของที่นี่ ตอนที่เราไปคนไม่ค่อยเยอะ เลยได้เดินเล่นถ่ายรูปกันเต็มที่



ตรงนี้เป็นส่วนของพระราชตำหนัก เค้าให้เราถ่ายรูปได้แค่ด้านนอกเท่านั้น

หลังจากที่เดินสำรวจจนทั่วแล้วก็ได้เวลาไปสถานที่ถัดไป นั่นก็คือ Shwe Tha Lyaung  หรือที่คนไทยเรียกว่าพระตาหวาน  ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าพระตาหวานมีที่ย่างกุ้งและมีที่พระโคด้วย ระหว่างทางขึ้นไปไหว้ท่าน ก็จะมีร้านขายของตั้งอยู่หลายร้านเลย ส่วนใหญ่จะขายผ้าถุง และก็ของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆ ก่อนที่จะมานี่เราได้บอกนันดาไปว่า เราอยากซื้อผ้าถุงแบบพม่าใส่ นันดาก็เลยแนะนำให้มาซื้อที่นี่ ราคาจะถูกกว่าที่ตลาดข้างนอก แมาค้าที่นี่ส่วนใหญ่พูดภาษาไทยได้ แล้วก็น่ารักมากด้วย


พอเลือกแบบได้ถูกใจพวกเราก็ใส่กันเลยค่ะ ไม่ค่อยจะเห่อกันเท่าไหร่ 5555

พอขึ้นมาข้างบนก็จะเจอกับพระตาหวานองค์ใหญ่ ไหว้พระขอพรกันไปตามระเบียบ
ถ้าจำไม่ผิดพระตาหวานที่พระโคปากท่านจะสีชมพู ส่วนที่ย่างกุ้งปากท่านจะสีแดง


หลังจากไหว้พระเสร็จก็เดินดูรอบๆ เค้าจะมีภาพวาดเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาต่างๆ ถ้าใครมีเวลาก็ลองไล่ๆอ่านกันดูน้า

สถานที่ต่อไปคือ Kyaik pun (ไจ๋ปุ๋น ) วัดนี้มีอายุกว่า 500 ปี เป็นวัดที่สร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ ใครอยากรู้ประวัติลองเซิสหาดูอีกทีน้า ตอนมาถึงที่วัดนี้ฝนตกค่อนข้างแรง เลยไม่ได้เก็บภาพมาเท่าไหร่ บวกกับเริ่มหมดแรงกันแล้วด้วย 5555
และนี่คือพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์  ซึ่งเป็นจุดเด่นของที่นี่เลย

ขับรถไม่ไกลจากไจ๋ปุ๋น ก็จะเจอกับมหาเจดีย์ หรือ มหาเซดี (Mahazedi Pagoda.)  จะมีป้ายเขียนภาษาไทยบอกว่า เป็นจุดอธิษฐานชัยชนะของพระเจ้าบุเรงนอง และเป็นความโชคดีของเราที่มีไกด์ไปด้วย เค้าเลยเปิดประตูให้เราเข้าไปไหว้ข้างในได้

เวลาขอพรให้พนมมือ และมองไปที่เจดีย์ตั้งจิตอธิษฐานขอในสิ่งที่อยากได้  
เจดีย์สูงใหญ่มาเกเลยทีเดียว แต่เราไม่ได้เดินขึ้นไปข้างบนเหตุเพราะฝนไม่ยอมหยุดตกสักที
หลังจากไหว้พระขอพรกันเสร็จก็ได้เวลาเดินทางกลับไปโรงแรมที่ย่างกุ้งกันแล้ว ใช้เวลาเดินทางประมาณ  1 ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงที่พักเราสะที
สำหรับคืนแรกเราพักที่ East Hotel  เป็นโรงแรมที่เรียกได้ว่าเกือบจะใจกลางเมืองเลยทีเดียว เราจองกับ Agoda ราคาอยู่ที่คืนล่ะ 1200 บาท รวมอาหารเช้า
ใช่ค่ะ ตึกสีส้มๆนี่แหละคือโรงแรมของเรา เกือบหากันไม่เจอ 55 ห้องนอนดี ห้องน้ำสะอาดก็ถือว่าผ่าน ติดตรงน้ำไหลน้อยไปนี๊ดดด

เก็บกระเป๋ากันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกไปหาอะไรกิน  พอเดินออกจากหน้าโรงแรมก็เจอรถขายป๊อปคอนพอดี
เลยลองซื้อมากินดู รสชาติอร่อยทีเดียว แถมคนขายยังอัธยาศัยดี แถมให้อีกเป็นกำมือ
ส่วนอาหารหลักเราตั้งใจกันว่าจะลองกินไก่ KFC กัน เพราะเวลาค่ำๆนี้ ไม่รู้จะไปหาอะไรกิน จะกินอาหารพื้นเมืองเค้าก็กลัวจะไม่รอด ประจวบกับตอนนั่งรถผ่านเห็นว่ามี เคเอฟซีอยู่ใกล้ๆ ก็เลยลอก็เลยลองเดินกันดู แต่เดินหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอจนกลับมาที่หน้าโรงแรม ตัดสินใจมาถามคนขายป๊อปคอนว่าอยู่ตรงไหน เค้าก็น่ารักกันมาก พาเดินไปส่งถึงปากซอยเลย  
และแล้วก็ได้กินสมใจ

เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2 ในคอมเม้นทืน๊า
ชื่อสินค้า:   พม่า - ย่างกุ้ง - สิเรียม (Yangon - syriam),หลวงพ่อทันใจ,ชเวดากอง,หงสาวดี,พระราชวังบุเรงนอง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่